พระชุดเล็ก"...จิ๋วแต่แจ๋ว หมายรวมถึง ปรกใบมะขาม เหรียญกระดุม พระปิดตา และพระสังกัจจายน์ ที่จัดสร้างขึ้นในวาระเดียวกันทั้งหมด แบ่งแยกเนื้อออกเป็น เนื้อทองคำ 34องค์ เนื้อเงิน 300องค์ เนื้อนวะ 500องค์ เนื้อทองแดง 12000องค์ และเนื้อกะหลั่ยทอง(มีเฉพราะกรรมการ)

...พระชุดเล็กชุดนี้ จัดสร้างขึ้นโดย พระอาจารย์เฉลิมชัย ฉนฺทสีโล รองเจ้าอาวาสวัดปากคลองหลวงแพ่ง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อหาปัจจัยในการบูรณะวัดโสกน้ำขาว จ.ยโสธร ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่เคยธุดงค์มาพักอยู่ระยะหนึ่งเป็นวัดที่กันดานมาก พระชุดเล็กนี้ยังได้นำไปให้พระอาจารย์หลายๆท่านปลุกเสกเดียวอีก รวมพิธีกรรมปลุกเสก 7ครั้งดังนี้...
1.หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดสระแก้ว ปลุกเสกเมื่อ วันที่ 13พ.ย.2517
2.หลวงพ่อเป็น จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 13พย.2517 ท่านเชี่ยวชาญด้านเสกให้อยู่คงต่ออาวุธ
3.หลวงพ่อทิพย์ ธมฺมนิยโก วัดโพธิ์ทอง จ.บุรีรัมย์เมื่อวันที่ 14พย.2517
4.หลวงพ่อทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 22 พย.2517
5.พระคูรวิบูลย์ สฺมโน วัดลำต้อยตึ่ง หลวงพ่อท่านได้ช่วยเมตตากับสัตว์พวกเขี้ยวต่างๆ
6. พิธีมหาพุทธาภิเษกเนื่องในงานทำบุญต่ออายุ หลวงปู่คำ ยสฺกุลปุตโต วัดศรีจำปาชนบท อ.พังโคนจ.สกลนคร ซึ่งท่านเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ในวันที่ 27-29 พย.2517ตรงกับวันขึ้น15ค่ำเดือน1ปีขาล มีพระคณาจารย์ในสาย พระอาจารย์มั่นทั่วภาคอีสานมาร่วมในพิธีถึง 56 ท่าน อาทิ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดอุดมสมพร จ.สกลนคร พระอาจารย์อ่อน ญาณศิริ พระอาจารย์จวน กุลเชษโก พระอาจารย์จันทร์ เขมปปัตโต พระอาจารย์หลุย์ จันทสาโร พระอาจารย์วัน อุตฺตโม ฯลฯ
7.หลวงปู่เม้า พลวิริโย เมตตาปลุกเสกเดี่ยวถึง 3ชม.พร้อมเหรียญมหานิยม ในพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดดอนดอกไม้ไฟ ต.ตาเป๊กซึ่งอยู่ไกล้กับวัดสี่เหลี่ยม(ที่ยังสร้างโบสถ์ไม่เสร็จในตอนนั้น) เมื่อวันที่ 10 ธค.2517

(ปรกจ้อยแดนอีสาน)...พระปรกใบมะขาม หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม ปี17 พระปรกในชุดนี้ออกแบบโดยนายช่างสมร รัชนะธรรม โดยยึดถือพระพุทธรูปนาคปรกสมัยทราวดีองค์ใหญ่ ที่ทางกรมศิลปากรได้จากวัดประดู่ทรงธรรม สมัยอยุทธยา มาเป็นแม่แบบ ทรงคุณค่างานศิลป์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หาได้เหมือนปรกมะขามอื่นใด สวยงามเข้มลัง น่ารักน่าใช้ ไม่ธรรมดา สุดยอดพุทธคุณ (ให้ทั่วประเทศรู้ว่าบ้านเรามีดี)*** ถ้าจะเอาใว้ใช้พุทธคุณ ไม่ต้องหาปรกนปข.หรือปรกจ้อยเลยครัช ***

...หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวถึง 102ปี บารมีแก่กล้า วาจาศักด์สิทธิ์(ในปากท่านเป็นลิ้นดำ)เป็นพระอริยสงฆ์ที่มีเมตตาธรรมขั้นสูงสุด ที่รู้อดีตปัจจุบันและอนาคต ท่านเป็นพระวัดบ้านป่าที่คนระดับหม่อมราชวงค์และนายกรัฐมนตรี ให้ความเคารพนับถือ พระดังๆทั่วประเทศมีมากมาย ***แม้แต่พลเอก กฤษณ์ ศรีวราห์(ผบทบ.สมัยนั้น) และนายกรัฐมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ยังเลือกที่จะนิมนต์พระป่าอย่างหลวงปู่เม้า ลงไปช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยที่ทำเนียบให้แก่บ้านเมือง***...มีพระอุปัชฌาย์คือ หลวงพ่อเพียร วัดถนนหัก และเคยออกธุดงค์กับหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย...เป็นพระที่มีศีลบริสุทธิ์และเรืองวิทยามีทยานจิตสูง ท่านครองผ้าเหลืองตั้งแต่เป็นเณรด้วยจริยาวัตรที่หมดจดงดงาม ไม่บกพร่องด่างพร้อยแต่ประการใด อีกทั้งเป็นพระเถระที่มีความเชี่ยวชาญในวิทยาคม และเคร่งครัดในการวิปัสสนากรรมฐานที่สูงอีกรูปหนึ่ง ด้วยชื่อเสียงกิติศักดิ์เป็นที่เลื่องลือในหมู่ชนทุกๆถิ่นฐานท่าน จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ท่านได้เดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เม้า และเลื่อมใสเคารพศรัธานับถือ หลวงปู่เม้ามากท่านจอมพล ป.ได้สร้างพระถวายหลวงปู่เม้าด้วย เมื่อตอนท่านมีอายุครบ 100 ปี ท่านก็ยังเดินได้คล่องไม่แพ้คนหนุ่ม ซึ่งนับว่าท่านเป็นพระเถระที่มีอายุยืนและมีวาสนามาก

...ในปีพ.ศ. 2517 พ.อ.พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร(ประธานจัดสร้างลป.ทวดเนื้อโลหะปี05)ท่านยัง ทรงเป็นประธานจัดสร้างพระถวายหลวงปู่เป็นพิเศษ...นั่นก็คือหนุมาน-รูปหล่อ-เหรียญรุ่นพิเศษ และผ้ายันต์ ***เนื่องด้วยหม่อมท่านโปรดปรานหนุมาน และต้องการจะทำหนุมาน โดยทราบถึงความเข้มขลังในเวทวิยาคม ในเรื่องวิชาการสร้างและเสกหนุมานของหลวงปู่เม้า*** นอกจากความรู้ต่างๆที่มี หลวงปู่เม้าท่านยังชำนาญเรื่องภาษาเขมรท่านได้นำเอาพระคาถามหาเศรษฐีเป็น ลายแทงจากแผ่นศิลาจารึกอักษรขอมจากปราสาทเขาพนมรู้งมาศึกษาแล้ว นำมาใช้กับวัตถุมงคลที่ท่านทำแจกลูกศิษย์ท่าน อีกทั่งท่านยังเป็นพระสหมิกธรรมกลับครูบาอาจารย์ในจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งหลวงปู่สุขวัด โพธิ์ทรายทอง และหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ด้วย...พระวัดบ้านป่าอีกรูปที่ผมเคารพนับถือ